ที่ เสียง รูป
๑ ก ก
๒ ค ข ฃ ค ฅ ฆ
๓ ง ง
๔ จ จ
๕ ช ช ฌ ฉ
๖ ซ ซ ส ศ ษ
๗ ด ด ฎ
๘ ต ต ฏ
๙ ท ท ธ ฑ ฒ ถ ฐ
๑๐ น น ณ
๑๑ บ บ๑๒ ป ป๑๓ พ พ ภ ผ
๑๔ ฟ ฟ ฝ
๑๕ ม ม
๑๖ ย ญ ย
๑๗ ร ร
๑๘ ล ล ฬ
๑๙ ว ว
๒๐ ฮ ห ฮ
๒๑ อ อ
พยัญชนะไทย มีลักษณะเฉพาะที่สำคัญ ได้แก่
๑. หัวมีแวว (หัวมีลักษณะเป็นวง) มี ๒ แบบ ได้แก่ แบบหัวเข้า เช่น ฒ ญ ผ ย เป็นต้น ส่วนอีกแบบ คือ แบบหัวออก เช่น น ภ บ ห เป็นต้น๒. หัวสองชั้น มีลักษณะคล้ายแบบหัวเข้า แต่เมื่อเขียนหัวครบวงแล้ว เขียนวนต่ออีกเกือบรอบ มี ๒ ตัวได้แก่ ข ช
๓. หัวหยักหรือหัวแตก มีลักษณะคล้ายแบบหัวสองชั้น แต่เพิ่มรอยหยัก มี ๔ ตัว ได้แก่ ฃ ซ ฆ ฑ
๔. ไม่มีหัว มี ๒ ตัว ได้แก่ ก ธ
สระไทย
ปัจจุบันสระในภาษาไทย มีการแบ่งรูปและเสียงต่างกันเป็น ๒ ลักษณะ
๑. หนังสือหลักภาษาไทย ของพระยาอุปกิตศิลปสาร กล่าวถึงรูปสระและเสียงสระในภาษาไทย
ว่ามี ๒๑ รูป ได้แก่
๑) -ะ เรียกว่า วิสรรชนีย์ ๑๒) ใ- เรียกว่า ไม้ม้วน
๒) - เรียกว่าไม้หันอากาศ ๑๓) ไ- เรียกว่า ไม้มลาย
๓) - ็ เรียกว่า ไม้ไต่คู้ ๑๔) โ- เรียกว่า ไม้โอ
๔) -า เรียกว่า ลากข้าง ๑๕) -อ เรียกว่า ตัวออ
๕) - ิ เรียกว่า พินท์อิ ๑๖) -ย เรียกว่า ตัวยอ
๖) เรียกว่าฝนทอง ๑๗) -ว เรียกว่า ตัววอ
๗) ° เรียกว่า นฤคหิตหรือหยาดน้ำค้าง ๑๘) ฤ เรียกว่า ตัวรึ
๘) " เรียกว่า ฟันหนู ๑๙) ฤๅ เรียกว่า ตัวรือ
๙) - ุ เรียกว่า ตีนเหยียด ๒๐) ฦ เรียกว่า ตัวลึ
๑๐) - ู เรียกว่า ตีนคู้ ๒๑) ฦๅ เรียกว่า ตัวลือ
๑๑) เ- เรียกว่า ไม้หน้า
วิธีใช้รูปสระ สามารถใช้ได้ ๒ วิธี คือ ใช้สระรูปเดียวและสระหลายรูปประสมกัน ส่วนเสียงตาม
ตำราอักขรวิธีดั้งเดิมของไทย กล่าวว่า ในภาษาไทยมีสระ ๒๑ รูป แทนเสียงได้ถึง ๓๒ เสียง ดังนี้
๑) อะ ๑๒) แอ ๒๓) เออะ
๒) อา ๑๓) เอียะ ๒๔) เออ
๓) อิ ๑๔) เอีย ๒๕) อำ
๔) อี ๑๕) เอือะ ๒๖) ใอ
๕) อึ ๑๖) เอือ ๒๗) ไอ
๖) อื ๑๗) อัวะ ๒๘) เอา
๗) อุ ๑๘) อัว ๒๙) ฤ
๘) อู ๑๙) โอะ ๓๐) ฤๅ
๙) เอะ ๒๐) โอ ๓๑) ฦ
๑๐) เอ ๒๑) เอาะ ๓๒) ฦๅ
๑๑) แอะ ๒๒) ออ
๒. หนังสือบรรทัดฐานภาษาไทย เล่ม ๑ (กรมวิชาการ : ๒๕๔๕) กล่าวว่า สระในภาษาไทย
มีรูปสระที่ใช้แทนเสียง จำนวน ๓๖ รูป ดังนี้
๑) - เรียกว่าไม้ไต่คู้ ๑๙) โ-ะ เรียกว่า สระ โอะ
๒) -ะ เรียกว่า สระ อะ ๒๐) โ- เรียกว่า สระ โอ๓) - เรียกว่าไม้หันอากาศ ๒๑) เ-าะ เรียกว่า สระ เอาะ
๔) -า เรียกว่า สระ อา ๒๒) -อ เรียกว่า สระ ออ
๕) -ำ เรียกว่า สระ อำ ๒๓) - ็อ เรียกว่า สระ ออ กับไม้ไต่คู้
๖) - ิ เรียกว่า สระ อิ ๒๔) เ-อะ เรียกว่า สระ เออะ
๗) - ี เรียกว่า สระ อี ๒๕) เ-อ เรียกว่า สระ เออ
๘) - ึ เรียกว่า สระ อึ ๒๖) เ- ิ เรียกว่า สระ เออ
๙) - ื เรียกว่า สระ อือ ๒๗) เ- ียะ เรียกว่า สระเอียะ
๑๐) - ือ เรียกว่า สระ อือ - ออ ๒๘) เ- ีย เรียกว่า สระ เอีย
๑๑) - ุ เรียกว่า สระ อุ ๒๙) เ- ือะ เรียกว่า สระ เอือะ
๑๒) - ู เรียกว่า สระ อู ๓๐) เ- ือ เรียกว่า สระ เอือ
๑๓) เ-ะ เรียกว่า สระ เอะ ๓๑) -ัวะ เรียกว่า สระ อัว
๑๔) เ- เรียกว่า สระ เอ ๓๒) -ัว เรียกว่า สระ อัว
๑๔) เ- เรียกว่า สระ เอ ๓๒) -ัว เรียกว่า สระ อัว
๑๕) เ- ็ เรียกว่า สระ เอ กับไม้ไต่คู้ ๓๓) -ว เรียกว่า ตัว วอ
๑๖) แ-ะ เรียกว่า สระ แอะ ๓๔) ใ- เรียกว่า สระ ใอไม้ม้วน
๑๗) แ- เรียกว่า สระ แอ ๓๕) ไ- เรียกว่า สระ ไอไม้มลาย
๘) แ- ็ เรียกว่า สระ แอกับไม้ไต่คู้ ๓๖) เ-า เรียกว่า สระ เอา